ศ.
สภาพมีผมเป็นหย่อมไปนั่นแหละ ยอมรับว่าเริ่มอาย ไปรร. โดนล้อแทบทุกวัน ล้อได้แต่ เพื่อนรักใคร่ และเป็นห่วง แต่คำที่เราเจ็บมากที่สุด ไม่ได้ออกมาจากปากเพื่อน แต่หลุดมาจากปากครูท่านนึง เขาพูดว่าเราเป็น"โรคสังคมรังเกียจ" แล้วครูก็หัวเราะ คิกคักกันในหมวด ตอนนั้นเราตัวเบา และอยากจะร้องไห้อยู่ตรงนั้นมาก (โรคที่เราเป็น คือผมร่วง ซึ่งมันไม่สามารถติดต่อสู่เพื่อนๆได้ มันไม่ใช่ไวรัส) วันนั้นเรากลับบ้านมา ร้องไห้เลยค่ะ เล่าให้พ่อแม่ฟัง เขาก็ให้กำลังใจเรา พอมา มอปลาย เรายิ่งหนักเลยค่ะ เริ่มอาย อยากสวย กฎของรร. ให้ไว้ผมยาวได้ เลยลองไว้ ผมเรามันก็ยาวเป็นหย่อมๆ แล้วเราก็หาวิธีมัดผมปิดส่วนที่ไม่มีผม กว่าจะมัดเสร็จก็เป็นชั่วโมง เราตื่นแต่เช้ามามัดผม วันนึงเข้าแถวเคารพธงชาติ โดนรุ่นพี่ผู้ชายมาแกล้ง มากระชากผม (ไม่มั่นใจว่ามอต้นหรือปลาย) แล้วไม่มีใครช่วย แม้แต่เพื่อนในกลุ่ม เราอายมาก เพราะคนเยอะ ทั้งรร. เลย เราใช้ชีวิต เหมือนตัวประหลาดไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่ค่อยมีสังคม เราโดนบูลลี่ โดนแกล้งสารพัด จึงไม่ค่อยมีใครอยากเล่นกับเรา เพราะเขากลัวโดนแกล้งโดนรังเกียจ มันเหมือนตายทั้งเป็นเลยแหละ เราแทบไม่อยากไปรร. อยากย้ายรร.
แต่สงสารพ่อแม่ ได้แต่คิดว่า ใครจะว่ายังไง พยายามไม่สน แต่ลึกๆ เราเจ็บมากๆ เราไม่มีความสุข กับการไปรร.
สวมหมวกแล้วหัวล้าน กลายเป็นคำพูดที่ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบในการสวมหมวก ถึงกับตกใจไม่น้อย เพราะกลัวว่าถ้าสวมหมวกบ่อยๆ อาจศีรษะล้านได้ นอกจากนี้ยังมีบทความมากมาย ที่บอกว่าการสวมหมวก คือ สาเหตุของปัญหาศีรษะล้านอย่างแท้จริง สวมหมวกบ่อยๆ ทำให้ศีรษะล้าน จริงหรือไม่?